ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ฟุตบอลโลก 2014

ฟุตบอลโลก 2014 (อังกฤษ: 2014 FIFA World Cup; โปรตุเกส: Copa do Mundo da FIFA 2014) เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศบราซิลระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน–13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นครั้งที่สองที่บราซิลได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันดังกล่าว โดยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2493 ทำให้บราซิลกลาย 5 ที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกสองครั้งต่อจากเม็กซิโก อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้นับตั้งแต่ พ.ศ. 2521 ที่ประเทศอาร์เจนตินา เป็นครั้งแรกที่มีจัดการแข่งขันนอกทวีปยุโรปสองครั้งติดต่อกัน เป็นครั้งแรกที่มีจัดการแข่งขันในซีกโลกใต้สองครั้งติดต่อกัน (ก่อนหน้านี้ ฟุตบอลโลก 2010 จัดในประเทศแอฟริกาใต้) นอกจากนี้ ฟีฟ่าก็ได้ใช้เทคโนโลยีโกลไลน์เป็นครั้งแรกในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

ตั๋วของการแข่งขันเปิดขายตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556 จำนวนประมาณ 3.3 ล้านใบ ผ่านเว็บไซต์ของฟีฟ่า

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2546 ฟีฟ่าได้ประกาศว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกจะจัดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้อีกครั้งนับตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลโลก 1978 ในอาร์เจนตินา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่จะหมุนเวียนสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันไปตามสหพันธ์ฟุตบอลต่าง ๆ ต่อมาในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2546 สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมบอล) ได้แจ้งว่าอาร์เจนตินา บราซิล และโคลอมเบียมีความประสงค์จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย และในวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2547 คอนเมบอลได้ลงมติเอกฉันท์ให้บราซิลเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้

บราซิลได้ประกาศเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 และโคลอมเบียได้ประกาศในวันถัดมา ส่วนอาร์เจนตินาไม่ได้ประกาศเสนอตัว โดยในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2550 โคลอมเบียได้ขอถอนตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งฟรันซิสโก ซานโตส กัลเดรอน รองประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวว่าโคลอมเบียจะจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกชุดอายุไม่เกิน 20 ปี ใน พ.ศ. 2554 แทน ทำให้เหลือเพียงบราซิลประเทศเดียวที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนี้

บราซิลชนะการคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2014 ในฐานะที่เป็นประเทศเดียวที่เสนอชื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยงานประกาศนั้นมีขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2550

การแข่งขันรอบคัดเลือก จัดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 ถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เพื่อให้เหลือเพียง 32 ทีมในรอบสุดท้าย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเป็นทีมชาติเดียวที่เข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก ส่วนยูเครนคือทีมที่มีอันดับโลกสูงสุด (อันดับที่ 16) ที่ไม่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย

อนึ่ง เมื่อแข่งขันรอบคัดเลือกเสร็จสิ้น ฟีฟ่ายังกำหนดให้มีการแข่งขันรอบแพ้คัดออก (play-off) เพื่อเลือกทีมชาติเข้ารอบสุดท้ายอีกชั้นหนึ่ง โดยในคราวนี้จัดเป็นสองคู่ แต่ละคู่ใช้ระบบเหย้า-เยือน ประกอบด้วยอันดับที่ 5 จากโซนเอเชียพบกับอันดับที่ 5 จากโซนอเมริกาใต้ซึ่งโซนอเมริกาใต้ชนะ และอีกคู่หนึ่งคืออันดับที่ 4 จากโซนคอนคาแคฟพบกับทีมชนะเลิศจากโซนโอเชียเนียซึ่งโซนคอนคาแคฟชนะ

การแข่งขันครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นสัปดาห์หลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลลีกในทวีปยุโรปปิดฤดูกาลลง และยังตรงกับช่วงฤดูหนาวของประเทศในเขตกึ่งร้อนอย่างบราซิลอีกด้วย

เมือง 17 เมืองที่สนใจจะเข้ารับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ได้แก่ เบเลง เบโลโอรีซอนตี บราซีเลีย กัมปูกรันดี กุยาบา กูรีตีบา โฟลเรียนอโปลิส โฟร์ตาเลซา โกยาเนีย มาเนาส์ นาตาล โปร์ตูอาเลเกร เรซีฟี โอลิงดา (สนามจะเป็นสนามที่ใช้ร่วมกัน 2 เมือง) รีโอบรังโก รีโอเดจาเนโร ซัลวาดอร์ และเซาเปาลู ส่วนมาเซโอได้ถอนตัวไปในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552

ตามกฎของฟีฟ่าห้ามมีเมืองที่ใช้แข่งขันเกิน 1 สนาม และจำนวนของเมืองเจ้าภาพต้องอยู่ระหว่าง 8–10 เมือง โดยสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (เซเบเอฟี) ได้ยื่นคำขอที่จะใช้เมืองเจ้าภาพ 12 เมืองในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้ ต่อมาในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ฟีฟ่าได้อนุมัติแผนการใช้เมืองเจ้าภาพที่มากถึง 12 เมือง

ก่อนหน้าที่จะมีการคัดเลือกตัดสินเมืองที่จะเป็นเจ้าภาพ มีการคาดการณ์กันว่าสนามที่จะได้จัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศคงเป็นสนามมารากานังในเมืองรีโอเดจาเนโรซึ่งเคยเป็นสนามแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1950 ระหว่างอุรุกวัยกับบราซิลมาแล้ว แต่เดิมสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิลตั้งใจจะจัดการแข่งขันนัดเปิดสนามที่สนามโมรุงบีในเมืองเซาเปาลูซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของบราซิล อย่างไรก็ตาม วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553 สนามโมรุงบีถูกตัดชื่อออกเนื่องจากไม่สามารถวางเงินประกันการปรับปรุงสนามให้เป็นไปตามมาตรฐานได้ ต่อมาในปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 สมาคมฟุตบอลบราซิลได้ประกาศให้ใช้อาเรนาโกริงชังส์จัดการแข่งขันในเซาเปาลู

เมือง 12 เมืองที่จะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 เมืองเบเลง, กัมปูกรันดี, โฟลเรียนอโปลิส, โกยาเนีย และรีโอบรังโกถูกตัดออก เกินครึ่งของเมืองที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องปรับปรุงสนามหรือสร้างสนามขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ ในขณะที่สนามในกรุงบราซีเลียจะถูกทุบและสร้างขึ้นใหม่ ส่วนอีกห้าเมืองก็กำลังปรับปรุงสนามของตนเอง

การจับสลากแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2014 จัดขึ้นที่กอสตาดูเซาอีปีรีสอร์ต เมืองมาตาจีเซาโฌเอา รัฐบาเยีย ในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (UTC –3)

ตารางการแข่งขันได้รับการประกาศจากสำนักงานใหญ่ฟีฟ่าที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ต่อมาในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555 คณะกรรมาธิการจัดการแข่งขันได้ประกาศเวลาที่จะใช้แข่งขันในแต่ละเมือง โดยแข่งขันนัดเปิดสนามจะจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน ที่เมืองเซาเปาลู เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และรอบแบ่งกลุ่มจะแข่งขันเวลา 13.00 น., 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น., 19.00 น. และ 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และรอบแพ้คัดออก (รอบน็อกเอาต์) จะทำการแข่งขันในเวลา 13.00 น. และ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น รอบรองชนะเลิศจะทำการแข่งขันในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ที่สนามกีฬามารากานัง เวลา 16:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เวลาทั้งหมดที่ระบุข้างล่างนี้เป็นเวลาท้องถิ่นบราซีเลีย (UTC –3) เป็นเขตเวลาของเมืองเจ้าภาพ 10 เมืองจากทั้งหมด 12 เมือง ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 10 ชั่วโมง ส่วนเมืองกุยาบาและมาเนาส์นั้นอยู่ในเขตเวลาแอมะซอน (UTC –4) หรือช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง ดังนั้น ตัวเลขเวลาการแข่งขันที่จัดขึ้นในเมืองทั้งสองจะช้ากว่าเวลาที่ระบุไว้ข้างล่างนี้หนึ่งชั่วโมง

เงินรางวัลทั้งหมดนี้ได้รับการยืนยันจากฟีฟ่า ซึ่งมีมูลค่าทั้งหมด 576 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมถึงเงินจำนวน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสโมสรในประเทศ) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อน ก่อนการแข่งขัน ทุกทีมจะได้รับเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินรางวัลอื่น ๆ เป็นไปดังนี้

สัญลักษณ์ของการแข่งขันมีชื่อว่า อิงส์ปีราเซา (โปรตุเกส: Inspiração) แปลว่า "แรงบันดาลใจ" ออกแบบโดยบริษัทอาฟรีกาจากประเทศบราซิล ดัดแปลงมาจากภาพถ่ายเชิงสัญลักษณ์ของมือผู้ชนะ 3 มือกำลังชูถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกอยู่ นอกจากจะถ่ายทอดแนวคิดมนุษยธรรมผ่านรูปมือที่สอดประสานกันแล้ว การลงสีรูปมือด้วยสีเหลืองและสีเขียวก็ยังเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงบราซิล ประเทศเจ้าภาพที่จะต้อนรับทุกประเทศอย่างอบอุ่นอีกด้วย ได้มีการเปิดตัวสัญลักษณ์ไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้

ฟีฟ่าและคณะกรรมาธิการจัดฟุตบอลโลก 2014 ได้เชิญชวนบริษัท 25 แห่งในบราซิลให้เข้าร่วมประกวดออกแบบสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของการแข่งขันครั้งนี้ โดยหน้าที่ในการคัดเลือกผู้ชนะเป็นของคณะกรรมการตัดสินที่ประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียง 7 คนจากสาขาต่าง ๆ ได้แก่ รีการ์ดู เตย์เชย์รา ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล, เฌโรม วาลก์ เลขาธิการฟีฟ่า, จิเซล บุนเชน นางแบบชาวบราซิล, ออสการ์ นีเอไมเยร์ นักออกแบบสถาปัตยกรรม, เปาลู กูเอลยู นักเขียน, อีเวชี ซังกาลู นักร้อง และฮันส์ ดอนเนอร์ นักออกแบบ

อาเลชังดรี วอลเนร์ นักออกแบบกราฟิกชาวบราซิล ได้วิจารณ์ว่าสัญลักษณ์นี้ดูคล้ายกับมือที่ปิดหน้าเพราะความอับอาย และยังวิจารณ์ถึงกระบวนการคัดเลือกสัญลักษณ์ด้วย ซึ่งกรรมการคัดเลือกนั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่นักออกแบบกราฟิกมืออาชีพ

โปสเตอร์อย่างเป็นทางการได้รับการเปิดตัวในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556 โดยทูตฟุตบอลโลกชาวบราซิล โรนัลโด, เบแบตู, มารียู ซากาลู, อามาริลดู ตาวาริส ดา ซิลเวย์รา, การ์ลุส อัลเบร์ตู ตอริส รวมไปถึงมาร์ตา นักฟุตบอลหญิงชาวบราซิล โดยงานเปิดตัวจัดขึ้นในเมืองรีโอเดจาเนโร

โปสเตอร์นั้นได้รับการออกแบบโดยคาเรน ไฮดิงเกอร์ เป็นนักออกแบบจากบริษัทกรามาในบราซิล โดยมีลักษณะเป็นแผนที่ประเทศบราซิลที่วาดขึ้นจากขาของนักฟุตบอลที่กำลังเตะลูกฟุตบอล นอกจากนี้ยังแสดงถึงวัฒนธรรมบราซิลและลักษณะเด่นอื่น ๆ ของชาติบราซิลเช่นพืชและสัตว์ท้องถิ่น สีสันที่สดใสของโปสเตอร์ก็สื่อถึงความงดงามและความหลากหลายของประเทศ เฌอโรม วาลก์ เลขาธิการฟีฟ่า กล่าวว่า โปสเตอร์ชิ้นนี้เป็นตัวอย่างงานศิลปะที่แสดงให้เห็นว่าบราซิลเป็นชาติที่มีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์

อาร์มาดิลโลเป็นสัตว์ที่ปกป้องตัวเองด้วยการกลิ้งเหมือนกับลูกบอล ทำให้มันได้ถูกเลือกมาเป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์ของการแข่งขันอย่างเป็นทางการโดยฟีฟ่า และมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555 โดยมีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยรายการข่าว ฟังตัสชีกู (Fantástico) ส่วนชื่อนั้นได้รับการคัดเลือกจากผู้คนและได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งผู้คนถึง 1.7 ล้านคน และมากกว่าร้อยละ 48 เลือกชื่อ ฟูแลกู (Fuleco) ชนะชื่อ ซูแซกู (ร้อยละ 31) และอามีฌูบี (ร้อยละ 21) ทำให้ชื่อนี้ชนะอย่างเอกฉันท์ และตุ๊กตาสัญลักษณ์นี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวบราซิล ซึ่งชาวบราซิลมากกว่าร้อยละ 89 ชื่นชอบมัน

"ฟูแลกู" มีความหมายโดยแบ่งแยกเป็นตัวอักษรเป็นภาษาโปรตุเกสคือ "Futebol" ("ฟุตบอล") และ "Ecologia" ("นิเวศวิทยา")

ลูกฟุตบอลอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 คือ อาดิดาส บราซูกา ซึ่งชื่อนั้นได้รับการคัดเลือกมากจากผู้ชมฟุตบอลชาวบราซิลมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่ง บราซูกา ได้รับการโหวตมากกว่าร้อยละ 70 โดยอาดิดาส ออกแบบลูกฟุตบอลสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก ตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลโลก 1970 เห็นถึงแรงบันดาลใจของวัฒนธรรมชาวบราซิลพลัดถิ่น ซึ่งชื่อนี้ชนะชื่อ บอสซาโนวาและคาร์นาวาเลสกา

กาชีรอลา (caxirola) ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555 โดยกระทรวงกีฬาของประเทศบราซิลให้เป็นเครื่องดนตรีอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 คล้ายกับวูวูเซลา ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยกาชีรอลาไม่ได้มีเสียงดังเหมือนกับวูวูเซลา และพวกมันได้รับการออกแบบมาพิเศษเพื่อให้ไม่ส่งเสียงรบกวนในสนามระหว่างการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยภายในสนาม กาชีรอลาจะถูกห้ามไม่ให้นำเข้าไปในสนามแข่งขัน

ฟีฟ่ากำหนดให้สิทธิในการออกอากาศ ครอบคลุมไปยังวิทยุกระจายเสียง, วิทยุโทรทัศน์, อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยฟีฟ่าเป็นผู้จัดจำหน่าย ให้แก่ผู้ประกอบการสื่อ ของแต่ละประเทศเองโดยตรง หรือผ่านบริษัทตัวแทนผู้รับอนุญาต หรือผ่านองค์กรต่างๆ เช่นสหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (อีบียู), องค์การโทรทัศน์แห่งอเมริกากลางและใต้ (โอไอที), องค์การเนื้อหาสื่อสากล (ไอเอ็มซี), บริษัทโฆษณาเดนต์สุของญี่ปุ่น เป็นต้น โดยจำหน่ายสิทธิเหล่านี้ คิดเป็นถึงร้อยละ 60 ของรายได้จากฟุตบอลโลกของฟีฟ่า

สำหรับศูนย์กระจายเสียงแพร่ภาพนานาชาติ ตั้งอยู่ที่รีอูเซงตรู (Riocentro) ในย่านบาร์ราดาชีฌูกา (Barra da Tijuca) ของนครรีโอเดจาเนโร ทั้งนี้ ฟีฟ่าจำหน่ายสิทธิในการออกอากาศ ให้แก่เครือข่ายโทรทัศน์จากทั่วโลก อาทิ บีบีซีกับไอทีวีของสหราชอาณาจักร, ซีซีทีวีของสาธารณรัฐประชาชนจีน, เอบีซีกับอีเอสพีเอ็นของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

หลายเกมของการแข่งขันเป็นรายการกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในหลายประเทศทั่วโลกในปี พ.ศ. 2557 รวมถึงเกมเปิดสนามระหว่างบราซิลและโครเอเชียมีผู้ชม 42.9 ล้านคนในบราซิล, เกมระหว่างญี่ปุ่นกับโกตดิวัวร์มีผู้ชม 34.1 ล้านคนในญี่ปุ่น และมีผู้ชม 34.7 ล้านคนในเยอรมนีที่เห็นทีมชาติของตนชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกกับอาร์เจนตินา ในขณะที่มีผู้ชม 24.7 ล้านคนระหว่างเกมระหว่างสหรัฐอเมริกาและโปรตุเกสซึ่งเป็นสถิติเกมฟุตบอลที่มีผู้ชมมากที่สุดในสหรัฐร่วมกับเกมฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ 2010 ตามข้อมูลของฟีฟ่ามีผู้ชมกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกรับชมการแข่งขันระหว่างเยอรมนีและอาร์เจนตินา

สำหรับในประเทศไทย บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชันแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนต์ จำกัด (อาร์เอสบีเอส) ซึ่งอยู่ในเครืออาร์เอส เป็นผู้ถือครองสิทธิแต่ผู้เดียว นับแต่ปี พ.ศ. 2549 และ 2553 โดยครั้งนี้ดำเนินการด้วยชื่อของอาร์เอส ผ่านช่องโทรทัศน์ระบบดาวเทียมของตน ซึ่งเปิดขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และทางฟีฟ่าอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า อาร์เอส-ฟีฟ่า เวิลด์คัพ แชนเนล (RS-FIFA World Cup Channel) โดยช่องดังกล่าวจะถ่ายทอดสด การแข่งขันครบทั้ง 64 นัดเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย พร้อมทั้งถ่ายทอดบันทึกการแข่งขัน รวมถึงรายการต่างๆ ซึ่งทางฟีฟ่าผลิตขึ้น และจัดส่งให้แก่ผู้รับสิทธิทั่วโลกด้วย

ซึ่งช่องรายการดังกล่าวสามารถรับชม ในระบบโทรทัศน์ความละเอียดมาตรฐาน ผ่านกล่องรับสัญญาณดาวเทียมซันบ็อกซ์ และกล่องบอลโลกดิจิทัลทีวี ของอาร์เอสเท่านั้น อนึ่ง อาร์เอสทำสัญญาอนุญาตให้พีเอสไอ ผู้ประกอบการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม รับดำเนินการแพร่ภาพช่อง อาร์เอส-ฟีฟ่า เวิลด์คัพ แชนเนล คู่ขนานในระบบโทรทัศน์ความละเอียดสูงด้วย นอกจากนี้ สำหรับการถ่ายทอดสด ผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดิน อาร์เอสมอบหมายให้ช่อง 8 ของตนเอง ซึ่งอยู่ในระบบดิจิทัล หมายเลข 27 ร่วมกับการทำสัญญาอนุญาต แก่สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ซึ่งอยู่ทั้งในระบบแอนะล็อก หมายเลข 7 และระบบดิจิทัล หมายเลข 35 เป็นจำนวนรวม 22 นัดการแข่งขัน

สำหรับการออกอากาศผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาร์เอสทำสัญญาอนุญาต ให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เป็นผู้ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันชื่อ เอไอเอสออนแอร์ (AIS On Air) ที่เปิดให้ดาวน์โหลด ผ่านแอพสโตร์ในระบบไอโอเอส และกูเกิลเพลย์ในระบบแอนดรอยด์ โดยจะต้องเป็นผู้ใช้บริการในระบบเอไอเอส ที่ชำระค่าบริการอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 199 บาทเท่านั้น ซึ่งการถ่ายทอดสดในทุกช่องทาง จะไม่มีภาพยนตร์โฆษณาคั่นระหว่างการแข่งขัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 13:30 น. ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้อาร์เอสบีเอส ไม่ต้องออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์ รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้ เฉพาะกับโทรทัศน์ซึ่งให้บริการเป็นการทั่วไป เนื่องจากเป็นการตกลงซื้อขายสิทธิ ก่อนประกาศดังกล่าวจะมีผลใชับังคับ ซึ่งเป็นการพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น หลังจากนั้น เลขาธิการ กสทช. ฐากร ตัณฑสิทธิ์ แถลงว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ติดต่อมายังประธาน กสทช. พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี เพื่อแจ้งให้ทาง กสทช.ดำเนินการให้ประชาชน สามารถรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทั้งหมด 64 นัดผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ซึ่งให้บริการเป็นการทั่วไป (ฟรีทีวี) กสทช.จึงเชิญผู้แทนอาร์เอสบีเอส หารือแนวทางในการชดเชย

โดยฝ่ายอาร์เอสบีเอส เสนอให้มีค่าชดเชยเป็นเงิน 766.515 ล้านบาท ซึ่งในวันต่อมา (12 มิถุนายน) คณะกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) และคณะกรรมการ กสทช.ประชุมพิจารณาการชดเชยดังกล่าว โดยออกมติให้ใช้กองทุน กทปส.ชดเชยให้อาร์เอสบีเอส เป็นเงินไม่เกิน 427.015 ล้านบาท เมื่อสามารถตกลงกันได้แล้ว ในเวลา 15:30 น. จึงจัดแถลงข่าวการถ่ายทอดสดร่วมกัน ระหว่างสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (38 นัด), สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 (29 นัด) และช่อง 8 ของอาร์เอส (56 นัด) โดยที่บางนัดมีถ่ายทอดสดมากกว่า 1 ช่องโทรทัศน์ มีรายงานข่าวด้วยว่า คสช.ประสานงานให้ ททบ.จัดเตรียมเวลาออกอากาศ เพื่อรองรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกดังกล่าว รวมกว่า 80 ชั่วโมง

สำหรับผู้ต้องการชมถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ ซึ่งเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ โดยซื้อกล่องรับสัญญาณดาวเทียมของอาร์เอสไปแล้ว เมื่อสถานการณ์เป็นไปดังกล่าว จึงอาจส่งผลให้ผู้ชมกลุ่มนี้เกิดความรู้สึกว่า การลงทุนของตนเสียเปล่าหรือไม่ เป็นผลให้วันรุ่งขึ้น (13 มิถุนายน) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาร์เอส สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ต้องเปิดแถลงข่าวในประเด็นดังกล่าว โดยอาร์เอสยังคงจำหน่าย กล่องบอลโลกดิจิทัลทีวีต่อไป เนื่องจากยังมีบริการอีกหลายอย่างที่คุ้มค่า แต่หากลูกค้าไม่ต้องการใช้กล่องฯ ดังกล่าวอีก อาร์เอสจะพิจารณาจ่ายค่าชดเชยเยียวยา โดยจะคืนเงินสูงสุดไม่เกิน 1,590 บาทต่อกล่องฯ ส่วนตัวยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐ สำหรับเงินจากทาง กสทช.ไม่ใช่การซื้อสิทธิต่อ หากแต่เป็นค่าชดเชยการเสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งยอมรับว่าไม่คุ้มค่ากับส่วนที่เสียไป แต่ยังมั่นใจว่าจะไม่ขาดทุน

สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล ได้ประมาณค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและปรับปรุงสนามแข่งขัน เป็นจำนวนเงินประมาณ 9.9 พันล้านเรอัลบราซิล (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, 550 ล้านปอนด์) นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ต้องรองรับคนนับล้านที่จะเข้าร่วมชมการแข่งขันนี้

เมื่อได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขัน รีการ์ดู เตย์เชย์รา ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิลได้กล่าวว่า "เรามีอารยะ ประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพที่ดีเยี่ยมในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ดีที่สุด" ที่สำนักงานใหญ่ของฟีฟ่าในเมืองซูริก

1930 อุรุกวัย 1934 อิตาลี 1938 ฝรั่งเศส 1950 บราซิล 1954 สวิตเซอร์แลนด์ 1958 สวีเดน 1962 ชิลี 1966 อังกฤษ 1970 เม็กซิโก 1974 เยอรมนีตะวันตก 1978 อาร์เจนตินา 1982 สเปน 1986 เม็กซิโก 1990 อิตาลี 1994 สหรัฐ 1998 ฝรั่งเศส 2002 เกาหลีใต้–ญี่ปุ่น 2006 เยอรมนี 2010 แอฟริกาใต้ 2014 บราซิล 2018 รัสเซีย 2022 กาตาร์ 2026 แคนาดา–เม็กซิโก–สหรัฐ 2030 สเปน–โปรตุเกส–โมร็อกโก 2034 ซาอุดีอาระเบีย 2038


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

วอร์เนอร์ แบ็กซ์เตอร์ เอมีล ยันนิงส์ รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน ยูฮิ คุเรไน ทิวา เงินยวง ทิก กว๋าง ดึ๊ก พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งเซอร์เบีย เฮนรียุวกษัตริย์ ไชอา เลอบัฟ โจชัว แจ็กสัน ชเว จี-อู เมทินี กิ่งโพยม คัง โฮ ดง เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก พระราชสวามี สมเด็จพระราชินีฟาบิโอลาแห่งเบลเยียม แอนน์ เนวิลล์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ขบวนรถด่วนพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เกรตแบริเออร์รีฟ แคเธอรีนแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษ วันสิ่งแวดล้อมโลก หลัว จิง สตีเฟน เครน เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ สุทัตตา อุดมศิลป์ คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ สินิทธา บุญยศักดิ์ ฟ้าสั่ง พ.ธวัชชัย มาร์ก วาห์ลเบิร์ก แอดัม สมิท มอซิลลา โปรแกรมค้นดูเว็บ มูลนิธิมอซิลลา อมฤตสาร์ จอร์จ มาร์แชล แผนมาร์แชล Hungary Szeged หลอดรังสีคาโทด ฮอโลกราฟี วิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด แดรกคูลา บราม สโตกเกอร์ จีน เคลลี อาร์เอ็มเอสไททานิก สนธิสัญญาเฟซ Clannad อุจิวะ มาดาระ ตัวละครในฮายาเตะ พ่อบ้านประจัญบาน มอเตอร์เฮด เล็มมี วันไดเรกชัน ราณี แคมเปน อาราชิ ไอบะ มาซากิ ดิมา บิลาน ไรอัน ซีเครสต์ ริคกี้ มาร์ติน วันรำลึกถึงการล้างชาติพันธุ์โดยนาซี เจ. ดี. ซาลินเจอร์ จูเซปเป เวอร์ดิ มารัต ซาฟิน หลิน ซินหยู ฟั่น เหวินฟาง งามพรรณ เวชชาชีวะ ไททานิค เอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ วาตภัย เครือรัฐออสเตรเลีย ศูนย์อวกาศเคนเนดี ซีอุย แซ่อึ้ง โรงเรียนเตรียมทหาร ค่ายกักกันเอาส์ชวิตซ์ เนชั่นแนล จีโอกราฟิก โค้ดกีอัส พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) หลวงพ่อโหน่ง อินฺทสุวณฺโณ ตู่ ภพธร หยกไท ศิษย์ อ. ราม นารายัณ มาร์กาเร็ตแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งสเปนและโปรตุเกส ราวัลปินดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต กรุงคาบูล สงครามในอัฟกานิสถานของโซเวียต เกาะเลย์เต แซนแอนโทนีโอ ซานตาโมนิกา ค.ศ. 1401 แคทเธอรินแห่งวาลัวส์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ค.ศ. 1322 ค.ศ. 1098 ค.ศ. 276 จักรพรรดิจิ้นหยวนตี้ ค.ศ. 323 ชอร์ดี มาซิป รถสูตรหนึ่ง

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23681